ลอยกระทง ความเชื่อจากหลากหลายที่มา วันประเพณีลอยกระทง เป็นเทศกาลของกลุ่มชาติพันธุ์ไทตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงเมืองไทย ตรงกับวันขึ้น 15 เย็น เดือน 12
จารีตนี้ ระบุขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์แล้วก็ขออโหสิต่อพระแม่คงคาซึ่งเป็นเทพยดาในคติฮินดู แต่ว่าเทศกาลนี้มีร่องรอยหลักฐานย้อนไปถึงจีนแล้วก็ประเทศอินเดียโบราณ ในประเทศประเทศพม่า ใช้ชื่อว่า เทศกาลตาซองได (Tazaungdaing) ในประเทศจีน ใช้ว่า เทศกาลโคมลอย joker slot
นอกเหนือจากการที่จะเป็นจารีตที่มีคุณค่า ในหัวข้อการแสดงออกถึงความกตัญญู ต่อผู้มีบุญคุณณดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ขนบธรรมเนียมนี้ยังมีคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน สังคม แล้วก็ศาสานาด้วย
อย่างเช่น ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาด้วยกัน ทำให้ชุมชนได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงาน หรือในบางท้องที่ที่มีการทำบุญทำกุศล ก็นับว่ามีส่วนช่วยตกทอดศาสนา และก็ในหลายๆที่ก็นับว่าเป็นจังหวะดีสำหรับเพื่อการรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติในแม่น้ำลำคลองไปด้วย
ประเพณีลอยกระทงเป็นจารีตประเพณีโบราณของประเทศอินเดียที่เมืองไทยรับเข้ามาปฏิบัติ แม้กระนั้นไม่ปรากฏหลักฐานกระจ่างแจ้งว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่ปรากฏบอกได้ว่ามีมาตั้งยุคจังหวัดสุโขทัยเป็นราชจังหวัด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงคาดคะเนว่า แต่เดิมเห็นจะเป็นพิธีการของพราหมณ์ทำเพื่อบูชาพระเจ้าทั้งยังสามเป็นพระอิศวร พระนารายณ์ รวมทั้งพรหม
ถัดมาได้ทำตามหนทางพุทธศาสนามีการชักโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ แล้วก็ลอยโคมเพื่อบูชารอยรอยพระบาท ซึ่งตั้งในชายหาดแม่น้ำนัมมทา (แม่น้ำนัมมทา เป็นแม่น้ำที่คู่ขนานกับทิวเขาวินธัย ไหลลงภาคตะวันตกของประเทศอินเดียแบ่งเขตประเทศอินเดียออกเป็นภาคเหนือรวมทั้งภาคใต้)
ตำนานที่หาหลักฐานรับรองไม่ได้ กล่าวไว้ว่าในรัชสมัยบิดาขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้คิดค้นกระทงขึ้นหนแรก โดยเดิมทีเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนโคมไฟ และก็นางนพมาศได้นำดอกวัวทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันขึ้น 15 ค่ำเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนเทียน
ดังปรากฏในตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์เอ๋ยถึงพระดำรัสของพระหล่นว่า “แม้กระนั้นนี้สืบไปตรงหน้า ตามลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลระบุนักขัตฤกษ์ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชารอยพระบาทนัมมทาแม่น้ำจวบจวนกัลปาวสาน jokergame
แต่ว่าปัจจุบันนี้มีหลักฐานว่าไม่น่าจะเก่ากว่ายุครัตนโกสินทร์ตอนแรก โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการผลิตกระทงแบบต่างๆในยุครัชกาลที่ 1 แล้วต่อจากนั้นในยุครัชกาลที่ 2 ได้เปลี่ยน จากแนวทางการทำจากดอกบัว ฯลฯกล้วยด้วยเหตุว่าดอกบัวดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นหายากรวมทั้งมีน้อย ก็เลยใช้ต้นกล้วยทำแทนแล้วมองไม่สวยก็เลยใช้ใบโคนงมาพับแต่งจนกระทั่งงามตกทอดมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก่อนที่จะพระพุทธเจ้าจะรู้แจ้งเห็นจริง เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ได้ประทับอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ใกล้แม่น้ำเนรัญเฒ่า กาลวันหนึ่ง นางสุชาดาอุบาสิกาได้ให้คนใช้นำข้าวข้าวทิพย์ (ข้าวกวนหุงด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำอ้อย) ใส่ถาดทองคำไปมอบให้
เมื่อท่านเสวยหมดแล้ว ก็ทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า หากวันใดจะเสร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ขอให้ถาดลอยทวนน้ำ ด้วยแรงสัตยาธิษฐาน และก็บุญญาภินิหาร ถาดก็ลอยทวนน้ำไปจนกระทั่งสะดือสมุทร และจมไปถูกขนดหางพระยานาคแพทย์บาดาล slotxo
พระยานาคตื่น พอเพียงมีความคิดเห็นว่าเป็นอะไร ก็ประกาศก้องว่า ขณะนี้ได้มีพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นในโลกอีกองค์แล้ว ต่อจากนั้นเทวดาทั้งหลายแหล่และก็พระยานาค ก็พากันไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็พระยานาคก็ได้ขอให้พระพุทธเจ้า ประทับรอยเท้าไว้บนฝั่งแม่น้ำเนรัญเฒ่า เพื่อพวกเขาจะได้ขึ้นมามอบสักการได้
ท่านก็ทรงกระทำตาม ส่วนคนใช้ก็นำความไปบอกนางสุชาดา ครั้นเมื่อถึงวันนั้นของทุกปี นางสุชาดาก็จะนำเครื่องหอม รวมทั้งดอกไม้ใส่ถาดไปลอยน้ำ เพื่อไปนมัสการรอยรอยเท้าเสมอๆตลอดมา รวมทั้งต่อๆมาก็ได้เปลี่ยนเป็นประเพณีลอยกระทง ดังที่มองเห็นกันอยู่ในตอนนี้
ในหัวข้อการประทับรอยเท้านี้ บางที่ก็ว่า พญานาคได้ทูลนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปแสดงธรรมเทศน์ในนาคพื้นพิภพ เมื่อจะเสด็จกลับ พญานาคได้ทูลขออนุสาวรีย์จากท่านไว้บูชา พระพุทธเจ้าก็เลยได้ทรงอธิษฐาน
ประทับรอยเท้าไว้ที่ชายหาดแม่น้ำนัมมทา แล้วก็พวกนาคทั้งหลายแหล่ ก็เลยพากันบูชารอยรอยเท้าแทนท่าน ถัดมาพุทธศาสนิกชนได้รู้หัวข้อนี้ ก็เลยได้ทำบูชารอยเท้าสืบต่อกันมา โดยนำเอาเครื่องสักการะบูชาใส่กระทงลอยน้ำไป ส่วนที่ว่าประเพณีลอยกระทงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา เพื่อฉลองวันเหมือนวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จกลับมาสู่โลกมนุษย์
ข้างหลังการจำพรรษา 3 เดือนในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงอภิธรรมโปรดพุทธคุณแม่นั้น ก็ด้วยวันดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เหล่าเหล่าเทวดาและก็พุทธบริษัท พากันมารับเสด็จนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งเครื่องสักการบูชา แล้วก็เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้เปิดให้ประชากรได้มองเห็นสรวงสวรรค์ และก็เมืองนรกด้วยฤทธิ์ของท่าน คนก็เลยพากันประเพณีลอยกระทง เพื่อฉลองรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สำหรับคติที่ว่า การลอยกระทงตามเทียน เพื่อไปบูชาพระเกศาแก้วจุฬามณี บนสรวงสรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น ก็ว่าเป็นเนื่องจากว่าตรงกับวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จออกบวชที่ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา ทรงใช้พระขรรค์ตัดพระผมผมจุกขาด ลอยไปกลางอากาศดังที่ทรงอธิษฐาน พระอินทร์ก็เลยนำผอบแก้วมาบรรจุ
และจากนั้นจึงนำไปติดตั้งไว้ภายในจุฬามณีเจดีย์ บนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ตามโคมไฟเป็นการจุดโคมไฟ หรือก่อไฟในตะเกียง /โคม หรือผาง-ถ้วยดินเผาเล็กๆ) ซึ่งด้านเหนือของพวกเรา ชอบมีการปลดปล่อยโคมลอย หรือประทีปที่เรียกว่า ว่าวไฟ ขึ้นไปกลางอากาศเพื่อบูชาพระเกศาแก้วจุฬามณีด้วย
เรื่องของเมียนมาร์ เล่าว่า กาลครั้งหนึ่งในยุคพระผู้เป็นเจ้าต้นโศกมหาราช ทรงมีพระมุ่งหมายจะสร้างเจดีย์ให้ครบ 84,000 องค์ แต่ว่าถูกพระยามารรอกีดกั้นเสมอ ท่านก็เลยไปขอให้อรหันต์องค์หนึ่งเป็นพระอุประอุตช่วยเหลือ พระอุประอุตก็เลยไปขอพระยานาคเมืองบาดาลให้ช่วย pgslot
พระยานาขอรับปาก แล้วก็ปราบพระยามารจนถึงเสร็จ พระผู้เป็นเจ้าโศกมหาราช ก็เลยสร้างเจดีย์ได้เสร็จสมพระมุ่งหมาย จากนั้นมา เมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 คนทั้งหลายแหล่ก็จะประกอบพิธีประเพณีลอยกระทง เพื่อบูชาคุณพระยานาค
ประเด็นนี้ บางพื้นที่ก็ว่า พระยานาค ก็คือพระอุปปะทุตที่อยู่ที่สะดือสมุทร รวมทั้งมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์มากมาย ก็เลยปราบมารได้ แล้วก็พระอุประอุตนี้ เป็นที่เชื่อถือของชาวเมียนมาร์ และก็ชาวตะวันตกเฉียงเหนือของไทยมากมาย
พิธีการลอยไฟหรือตามโคมไฟนี้ ตอนแรกเป็นพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทวดาอีกทั้งสามเป็น พระอิศวร พระนารายณ์แล้วก็พรหม เป็นจำพวกคู่กับประเพณีลอยกระทง ก่อนที่จะลอยก็ควรมีการตามเทียนก่อน ซึ่งตามคู่มือโบราณประเทศอินเดียเรียกว่า ครั้งขว้างกลุ่มคำ
โดยระบุทางโหราศาสตร์ว่า เมื่อดวงตะวันถึงราศีพฤศจิก ดวงจันทร์อยู่ราศีพฤกษ์เมื่อใด เมื่อนั้นตรงเวลาตามเทียน รวมทั้งเมื่อบูชาไว้ถึงกำหนดวันแล้ว ก็เอาตะเกียงนั้นไปลอยน้ำเสีย
ถัดมาพุทธศาสนิกชนมองเห็นเป็นการดี ก็เลยแปลงเป็นการบูชารอยรอยพระบาท และก็การรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว โดยมักถือเอาเดือน 12 หรือเดือนยี่เป็งเป็นหลักเกณฑ์ (ยี่เป็งเป็นเดือนสอง ตามการนับทางล้านนา ที่นับเดือนทางจันทรคติ เร็วกว่าภาคกึ่งกลาง 2 เดือน)
การลอยกระทง เป็นขนบธรรมเนียมที่มีมาแต่ว่าโบราณ แต่ว่าไม่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่า ปฏิบัติกันมาแต่ว่าขณะใด เพียงแค่เขตแดนแต่ละที่ ก็จะมีวัตถุประสงค์แล้วก็ความเชื่อถือสำหรับการประเพณีลอยกระทงนาๆประการ ดังเช่น ในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ก็จะเป็นการบูชาพระผมแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เป็นบูชารอยรอยเท้าในริมทะเลริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นแม่น้ำเนรพุททาในประเทศอินเดีย หรือต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากที่อยู่ เมื่อครั้งไปโปรดพระพุทธแม่ UFABET
นอกจากนั้น ประเพณีลอยกระทง ก็ยังมีเป้าประสงค์ เพื่อบูชาพระอุปลุกตเถระที่บำเพ็ญบริกรรมอาคมในทะเลลึก หรือสะดือสมุทร บางพื้นที่ก็ประเพณีลอยกระทง เพื่อบูชาทวยเทพตามความศรัทธาของตัวเอง บางที่ก็เพื่อแสดงความขอบพระคุณพระแม่คงคา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ต่างๆ
รวมถึงขออภัยที่ได้ทิ้งสิ่งสกปรกลงไป ส่วนบางท้องที่ ก็จะทำเพื่อคิดถึงบรรพบุรุษที่ตาย หรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ลอยทุกข์โศกโรคภัยต่างๆรวมทั้งจำนวนมากก็จะอธิษฐานขอสิ่งที่ตนต้องการไปด้วย
พระยาอนุมานราชธน ได้คาดคะเนว่า ตัวการที่การลอยกระทง อาจมีพื้นฐานเป็นได้ว่า การลอยกระทงเป็นคติของเชื้อชาติที่ประกอบเกษตรกรรม ซึ่งจะต้องอาศัยน้ำเป็นหลัก เมื่อพันธุ์ไม้ธัญญชาติเจริญงอกงามดี รวมทั้งตรงเวลาที่น้ำเจิ่งท่วมพอดิบพอดี ก็ทำกระทงลอยไปตามสายน้ำไหล เพื่อขอบพระคุณแม่คงคา หรือเทวดาที่ประทานน้ำมาให้ความอุดมสมบูรณ์
เหตุนี้ ก็เลยได้ประเพณีลอยกระทงในช่วงฤดูกาลน้ำมากมาย รวมทั้งเมื่อเสร็จแล้ว ก็เลยเล่นครื้นครึกด้วยความยินดี พอๆกับเป็นการสมโภชงานการที่ได้ทำว่า ได้สำเร็จแล้วก็รอดมาจนกระทั่งได้ผลแล้ว ท่านว่าการที่ราษฎรกล่าวว่า การลอยกระทงเป็นการขออภัยลาโทษ และก็ขอบคุณมากต่อแม่คงคา ก็อาจมีเค้าในลักษณะเดียวกันกับการที่ชาติต่างๆ
แต่ว่าดึกดำบรรพ์ได้ยินดี ที่ผลิตผลเก็บเกี่ยวได้ ก็เลยได้นำผลิตผลแรกที่ได้ ไปบูชาเทพเทวดาที่ตนเชื่อถือ เพื่อขอบพระคุณที่บันดลให้การเพาะปลูกของตัวเองได้ประสิทธิภาพที่ดี และชุบเลี้ยงผีที่ยากไร้ รวมทั้งการเซ่นสรวงบรรพบุรุษที่ตาย เสร็จและมีการสมโภชเลี้ยงคุ้นเคย
ถัดมาเมื่อมนุษย์มีความรุ่งเรืองแล้ว การตื่นตระหนกทุกข์ใจ เรื่องเพาะปลูกว่าจะไม่เป็นผลก็ลดน้อยลงไป แต่ว่าก็ยังกระทำการเส้นไหว้ จากที่เคยทำมาจนถึงเป็นขนบธรรมเนียม เพียงแค่ต่างก็แก้ให้กับคติลัทธิทางศาสนาที่ตนเชื่อถือ Doraemon
ดังเช่นว่า มีการทำบุญสุนทานมากขึ้นในทางศาสนาพุทธ ฯลฯ แม้กระนั้นที่สุด ก็ยังเหลือแม้กระนั้นการเล่นสนุกสนานรื่นเริงกันเป็นส่วนมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนั้นข้างต้น การลอยกระทงก็เลยมีอยู่ในชาติต่างๆทั่วๆไป แล้วก็การที่ไปลอยน้ำ ก็คงจะเป็นความรู้สึกด้านจิตวิทยา ที่มนุษย์โดยปกติ ชอบเอาอะไรทิ้งไปในน้ำให้มันลอยไป
ในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือตำนานนางนพมาศ ซึ่งเป็นพระสนมเอก ของพระมหาธรรมราชาลิไทยหรือพระหล่น ที่กรุงจังหวัดสุโขทัย ได้เอ่ยถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนสิบสองว่า ตรงเวลาเสด็จทัศนาจรสายธาร ตามพิธีในตอนกลางคืน
รวมทั้งได้มีพูดให้บรรดาพระสนมนางกำนัลทั้งหลายแหล่ ตกแต่งกระทงแต่งแต้มดอกไม้ธูปเทียน นำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง ในครั้งนั้น ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศพระสนมเอก ก็ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น
ด้วยมีความคิดเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษ ที่บานในยามค่ำคืนเพียงแค่ปีละครั้งในวันดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เหมาะสมทำเป็นกระทงแต่งเทียน ลอยไปมอบให้สักการะบูชารอยรอยพระบาท ซึ่งเมื่อพระตกเจ้าได้ดูมองเห็น ก็บอกถามหาความหมาย นางก็ได้ทูลชี้แจงกระทั่งเป็นที่พอเพียงใจ
ท่านก็เลยมีพระราชกระแสรับสั่งว่า แม้กระนั้นนี้สืบไปข้างหน้าตามลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลระบุนักขัตฤกษ์ วันพระจันทร์เต็มดวงเดือน 12 ให้นำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชารอยเท้านัมมทาแม่น้ำ ตลอดกัลปาวสาน เพราะเหตุนี้ พวกเราก็เลยมองเห็นโคมลอยรูปดอกบัวปรากฏมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ SLOT
อัพเดทล่าสุด : 2 กรกฎาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)